ปัจจุบันเครื่องซักผ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานที่ทุกบ้านต้องมี และสมัยนี้มีให้เลือกซื้อมากมายหลายรูปแบบ ทำให้พ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลายที่คิดอยากจะซื้อใหม่ต้องปวดหัวกันเป็นระนาว เลือกไม่ถูกว่าควรจะซื้อแบบไหนดี หากใครกำลังสับสน ตามเรามาดูกันว่าเครื่องซักผ้าแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการเลือกซื้อค่ะ
ประเภทของเครื่องซักผ้า
1. เครื่องซักผ้าฝาหน้า
เป็นระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ โดยอาศัยหลักการทำงานมอเตอร์แนวดิ่ง คอยหมุนผ้าในถังให้ตกลงตามแรงโน้มถ่วงโลก ซึ่งภายในมีถังซักซ้อนกัน 2 ชั้น ถังซักชั้นในจะทำหน้าที่หมุนให้ผ้าเสียดสีกัน และอุ้มน้ำไว้ในขณะที่หมุนผ้า ถังซักชั้นนอกจะทำหน้าที่อุ้มน้ำไว้ในขณะซัก มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย เช่น การคำนวณปริมาณน้ำโดยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับปริมาณผ้า,สามารถซักน้ำร้อนได้ และอื่นๆ อีกมากมายตามรุ่น และยี่ห้อที่ต่างกัน
ข้อดี : มีแรงซักคล้ายกับการซักผ้าด้วยมือมากที่สุด
ข้อเสีย : ราคาแพงกว่าเครื่องซักผ้าแบบอื่น ใช้เวลาซักนาน (45 นาที ถึง 2 ชั่วโมง) ต้องดูแลรักษาอย่างดี รอให้ถังแห้งก่อนปิดฝา เช็ดขอบยางทุกครั้งหลังซักเพื่อป้องกันเชื้อรา การติดตั้งยุ่งยากเพราะต้องเดินท่อน้ำจากก๊อกเข้าเครื่องโดยตรง
2. เครื่องซักผ้าแบบถังเดียวฝาบน
เครื่องซักผ้าประเภทนี้เป็นแบบอัตโนมัติ ต้องต่อตัวเครื่องเข้ากับท่อน้ำ เมื่อตั้งระบบการซักเรียบร้อย เครื่องจะทำการจ่ายน้ำเข้าเครื่อง และตัดน้ำเองอัตโนมัติ ทำการซักและปั่นหมาดในถังเดียว ในถังซักมีแกนหมุนตรงกลาง หมุนมอเตอร์ในทิศทางกลับไป-มา เพื่อให้เกิดแรงเหวี่ยงคราบสกปรกให้หลุดออกจากผ้า จึงต้องใช้มอเตอร์กำลังสูงกว่าแบบอื่นๆ ผู้ใช้งานสามารถตั้งระบบการซัก แล้วรอนำผ้าไปตากได้เลย
ข้อดี : ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องแบบฝาหน้า และนำผ้าเข้าออกจากเครื่อง หรือเติมน้ำเพิ่มได้ดีกว่า
ข้อเสีย : การติดตั้งยุ่งยาก เพราะต้องเดินท่อน้ำจากก๊อกเข้าเครื่องโดยตรง
3. เครื่องซักผ้าประเภทสองถังฝาบน
เป็นเครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติแบบถังคู่ แยกส่วนระหว่างถังซัก และถังปั่นผ้าให้หมาด การใช้งานหลักๆ คือ ผู้ใช้จะต้องเปิดน้ำใส่เอง ใส่ผงซักฟอกเอง ตั้งเวลาซักเอง ในถังซักจะมีแกนหมุนตรงกลาง หมุนให้ผ้าเสียดสีกัน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออก พอซักเสร็จก็ต้องเป็นผู้แยกผ้าจากถังซักมาใส่ถังปั่นหมาดเอง และอาจต้องทำหลายครั้งเนื่องจากถังปั่นหมาดมีขนาดเล็กกว่าทั้งซักมาก
ข้อดี : ราคาถูกกว่า ติดตั้งและเคลื่อนย้ายง่าย จะเลือกต่อท่อน้ำหรือจะตักน้ำใส่เองก็ได้ ซักผ้าได้เร็ว เพราะตั้งเวลาซักเอง หากคิดว่าพอแล้วก็สามารถปิดได้เลย ตัวถังปั่นเร็วและผ้ามีการกลับไปมาทั่วถึงกว่า สะดวกต่อการแยกซัก เช่น ผ้าที่ไม่ต้องการปั่นแห้ง พอซักเสร็จก็ยกเอามาบิดเอง เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่ต้องซักผ้าปริมาณมาก ต้องการความรวดเร็วในการซัก
ข้อเสีย : ต้องคอยเปลี่ยนน้ำ และนำผ้ามาเข้าถังปั่นหมาดเอง อายุการใช้งานของเครื่องค่อนข้างจะสั้นกว่าแบบถังเดี่ยว
อ่านต่อ สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อ มาดูกันเลย >>>