หน้าแรก    • ธนาคารกลาง  • ห้องแช็ท  • วิทยุออนไลน์  • ช่วยเหลือ  • ค้นหา  • เข้าสู่ระบบ  • สมัครสมาชิก  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ 3 จุดเริ่มต้นของการผจญภัย (ตอนกลาง)  (อ่าน 5307 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ว่างเปล่า...

ทร่ามกลางหมู่ดาวมากมาย มีเพียงดาวดวงเดียวที่ส่องสว่าง นั้นก็คือ...เธอ

ฉันอยากไปยังที่แห่งหนึ่ง

หญิง Thailand
 184
 101
 100



Windows XP MS Internet Explorer 8.0
« เมื่อ: ธันวาคม 17, 2553, 03:49:47 PM »



ตอนที่ 3 จุดเริ่มต้นของการผจญภัย (ตอนกลาง)


          มนุษย์ผู้นั้นค่อย ๆ เดินเยื้องย่าง มาดเนี้ยบ มือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง แต่ที่ชัด ๆ ที่สุดคือมีกระแสลมล้อมรอบตัวเค้า
เป็นสายเกลียวไปตามลำตัว และหมุนวนอยู่แค่รอบบริเวณนั้น ดวงตาสีเทาของเค้านิ่งไม่สั่นไหว และมองต่ำนิดๆ ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ๆ
ยิ่งฉายความหล่อแบบเต็มพิกัด แต่พวกฝูงหมาป่าต่างพากันหนีหัวซุกหัวซุน ไม่กล้าหืออือเสียแล้ว

          คน ๆ นั้นเดินเข้ามาจนกระทั่งใกล้เมเทโอแค่เอื้อมมือก็ถึง ว่าแล้วเค้าก็เอามือที่กำลังล้วงกระเป๋านั้นออกมา ลมที่ตอนแรกพริ้ว
ไหวอยู่รายล้อม บัดนี้กลับจางหายไปอย่างไร้ร่องรอย และมือนั้นได้ไปหยุดอยู่ที่แผงขนคอของเจ้าเมเทโอ ก่อนจะค่อยๆ สัมผัสเบาๆ
ทำนองว่าลูบปลอบเจ้าเมเทโอที่เพิ่งเจอเรื่องที่เกือบจะถึงชีวิตมาเมื่อกี้


          "เจ้า....เจ้าปลอดภัยแล้ว...จงนิ่งเสียเถิด" เสียงทุ้มกังวาล ที่ออกมาจากปากของคนที่กำลังลูบเจ้าเมเทโอ อย่างอ่อนโยน

          ในขณะนั้นเองที่ มนุษย์ และม้ากำลังเผลอ ก็มีบางอย่างล่วงลงมาจากต้นไม้ โครม!!

          "โอ้ย.............อะไรกันเนี่ย" อุตส่าห์กำลังนอนสบายๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย อาร์เทมิสอุทานในใจ

          แต่ก็มีเสียงๆ หนึ่งตอบคำถามของเขา

          "ก็ไม่อะไรหรอก แค่เจ้านอนละเมอ ถึงขนาดตกจากต้นไม้" เสียงทุ้มของใครบางคนเอ่ย ทำให้อาร์เทมิสที่กำลังงุนงง เงยหน้า
ขึ้นมามองทั้งๆ ที่นั่งกองอยู่

          "จะ...เจ้าเป็นใครหนะ" หลังจากตื่นเต็มที่ อาร์เทมิสก็ได้ยลโฉมหนุ่มรูปงาม ส่วนคนเสียงทุ้มกะได้ยลโฉมหนุ่มสวย ต่างฝ่ายต่าง
เพ่งพินิจกัน และกันอยู่นานสองนาน

          อาร์เทมิสจำได้ว่า รูปลักษณ์แบบนี้ มีส่วนที่ตรงตามที่เขาได้เรียนเกี่ยวกับลักษณะของแต่ละเผ่าพันธ์ และผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอนี้
จากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว คงจะเป็นเผ่ามนุษย์ จากการดูที่ใบหู ที่มีความแตกต่างจากเธอ และสีผิวแม้จะผิวขาว แต่ก็ขาวไม่เท่าเธอ

          คนเสียงทุ้มจ้องซะจน อาร์เทมิส หรือลูน่าของเรา ชักจะเริ่มเขิลๆ ก็เธอเป็นผู้หญิงในร่างผู้ชายนี่ เล่นมาจ้องกันแบบนี้ก็อายเป็น
เหมือนกันนะ

          "นี่...จะจ้องข้าทำไมนักหนา ไม่เคยเห็นเอลฟ์เหรอไง" อาร์เทมิสพูด เพราะอีกฝ่ายชักจะจ้องเขามากเกินไปแล้ว อย่างกับเขา
เป็นตัวประหลาดงั้นแหละ

          ".....อืม...." หา...ตอบแค่เนี่ย คนอะไรกันเนี่ย แถมจ้องไม่เลิกอีกตะหาก อาร์เทมิสชักรู้สึกไม่ค่อยถูกโฉลกกับตาคนนี้สักเท่าไหร่

          "นี่...เจ้า จะเลิกจ้องข้าแบบนั้นได้หรือยัง มันเสียมารยาท รู้บ้างไหม" อาร์เทมิสเริ่มจะยัวะ

          ".....ขะ...ขอโทษที แต่ว่าเจ้าหนะ เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ ดูจากการแต่งตัวเหมือนจะเป็นผู้ชาย แต่ดูหน้าตาแล้ว...."
คนเสียงทุ้มงุนงง กับเพศของอาร์เทมิส มันอดไม่ได้ที่จะถาม ข้องใจเหลือเกิน

          "หะ...หา!! ขะ....ข้าก็ต้องเป็นผู้ชายสิ เจ้านี่...ใช้ตาหรือก้นดูเนี่ย" อาร์เทมิสเสียวๆ กลัวความลับจะแตก ที่จริงๆ แล้วตนไม่ใช่ผู้ชาย

          "หา....มันไปเกี่ยวอะไรกับก้นด้วย เจ้านี่...ข้าถามดีๆ นะ  ก็ใครใช้ให้เจ้าหน้าหวานเหมือนผู้หญิงกันเล่า ข้าก็เลยสับสน ก็เท่านั้นเอง"
คนเสียงทุ้มเริ่มมีอารมณ์ยัวะตะหงิดๆ บ้างเหมือนกัน เมื่อเจอคำพูดของอาร์เทมิส

          "ใครจะไปหน้าเหมือนเจ้ากันเล่า ถ้าข้าหน้าเหมือนกอลิล่าอย่างเจ้าข้าขอตายดีกว่า" อาร์เทมิสพูดด้วยความหมั่นไส้ หน้าหวานของ
เธอมันผิดตรงไหน มันก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรที่จะมีหนุ่มหน้าหวาน

          "....จะ...เจ้า...หน้าข้ามันเหมือนกอลิล่าตรงไหนไม่ทราบ ถ้าข้าหน้าเหมือนกอลิล่า เจ้าก็หน้าเหมือนหมีแพนด้าหนะแหละ" คนที่ถูก
ว่าๆ หน้าเหมือนกอลิล่า ชักฉุนกึก

          "อะ...อะไรนะ เจ้าว่าข้าหน้าเหมือนหมีแพนด้าอย่างนั้นเหรอ...เจ้านี่มัน....ข้าไปหน้าเหมือนหมีแพนด้าตรงไหนหา..." อาร์เทมิส
ก็ฉุนไม่แพ้กัน เล่นว่าเขาหน้าเหมือนหมีแพนด้า เกินไปแล้วนะ ขอบตาก็ไม่ได้ดำสักหน่อย

          "เหมือนสิ....หลายจุดเลย ผิวก็ขาวอย่างกับขนของมัน ตาก็หวานๆ เหมือนตามัน แถมหน้าตาเจ้าก็น่ารักเหมือนหมีแพนด้าอีกด้วย
เจ้ามันหมีแพนด้าชัดๆ" อือหือ เหมือนหลายจุดขนาดนั้นเชียวเหรอ จะท้วงว่าไงดีหละอาร์เทมิส

          "วะ....ว่ายังไงนะ เอลฟ์ทุกคนก็ผิวสีนี้ทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่แค่ข้าคนเดียวซะเมื่อไหร่ ตาของข้าจะหวานหรือไม่ ไปหนักส่วนไหนของ
เจ้ากัน หน้าของข้า เกิดมาข้าก็หน้าตาแบบนี้ แล้วข้าก็ไม่เห็นว่ามันจะเหมือนหมีแพนด้าตรงไหน ที่สำคัญข้าไม่ได้มีขนเยอะแบบหมีแพนด้า
และก็ไม่มีขนสีดำด้วย..." ชมว่าหน้าตาน่ารักก็จริง แต่คงหมายถึงน่ารักเหมือนหมีแพนด้า หนอย....ข้าไม่ใช่หมีแพนด้าน้า...

          แฮ่ก แฮ่ก เถียงกันไปเถียงกันมาจนเหนื่อย ต่างไม่มีใครยอมใคร เมเทโอที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนกระดิกหูไปมา สองคนนี้นี่มันยังไงกัน
เจอหน้ากันไม่นานก็มีเรื่องให้ทะเลาะกันเสียยืดยาว จนสายโด่งออกขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่รีบเดินทางจะไปไม่ถึงเมืองโอไรออน ภายใน 3 วันแน่ๆ

          "เจ้านี่มัน...ดูยังไงก็หน้าหวานเหมือนผู้หญิงอยู่ดี" แหนะ คนเสียงทุ้มยังไม่เลิกลา

          "มะ...มันเรื่องของข้า หน้าข้าไม่ใช่หน้าเจ้า" ฝ่ายนี้ก็ไม่มีลดละเหมือนกัน พอกันเล้ย...แต่ละคน

          "ว่าแต่เจ้าจะนั่งทับข้าอีกนานไหม เจ้าหน้าหวาน" คนเสียงทุ้มยังหาเรื่องไม่เลิก

          "อะ...อะไร ข้าไปนั่งทับเจ้าเมื่อไหร่กะ....เหวอ!...." อาร์เทมิสเพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเองตั้งแต่ตกลงมาจากต้นไม้ ก็นั่งทับตาคนนี้มาตลอด
หลายชั่วโมงแล้วด้วยนะเนี่ย

          คนเสียงทุ้มลุกขึ้นปัดกางเกง ตามหลังอาร์เทมิสที่ลุกไปก่อน และมองดูอาร์เทมิส กับเมเทโอ

          "ดูจากท่าทาง เจ้าคงจะกำลังเดินทางไปไหนสักแห่ง และนี่ก็คงเป็นม้าของเจ้าสินะ เจ้าหน้าหวาน เจ้ากำลังจะไปที่ไหนอย่างนั้นเหรอ"
คนเสียงทุ้มคาดคะเนได้แม่นยำเหลือเชื่อ

          "ใช่ ข้ากำลังจะเดินทางไปเมืองหลวง เมืองมูนพาราไดซ์ อีกอย่างนะ เลิกเรียกข้าว่าเจ้าหน้าหวานสักทีจะได้มะ..." อาร์เทมิสตอบ
คำถามของคนเสียงทุ้ม

          "...ได้ ข้าจะเลิกเรียกเจ้าว่า เจ้าหน้าหวานก็ได้ แต่มีข้อแม้นะ....." คนเสียงทุ้มยื่นข้อเสนอเสียดื้อๆ

          "....ข้อแม้อะไร....แล้วทำไมข้าต้องทำตามข้อแม้ของเจ้าด้วย..." อาร์เทมิส ยืดเหมือนกับว่าตนจะไม่ทำเสียอย่าง จะทำไม

          "...ถ้างั้น....ข้าก็จะเรียกเจ้าว่า เจ้าหน้าหวานต่อไปก็แล้วกัน" ฝ่ายนี้ก็ไม่เบาเหมือนกัน

          "เจ้า...เจ้าจะเอายังไงแน่" เคี้ยวยากจริงๆ เจ้านี่ ฉลาดแกมโกงสุดๆ

          "เจ้าก็แค่ทำตามเงื่อนไข ที่ข้าบอก ก็เท่านั้นเอง แล้วข้าจะไม่เรียกเจ้าว่า เจ้าหน้าหวาน ว่าไงตกลงไหม"

          คำพูดนี้ทำเอาอาร์เทมิสถอนหายใจออกมา ถ้าไม่รับคำไปมีหวังไม่ได้ออกเดินทางแน่ เห้อ....

          "ก็ได้...ลองว่ามา" สุดท้ายก็ยอมรับเงื่อนไขของคนเสียงทุ้ม

          "เดิมที่ข้าก็ต้องการจะไปเมืองหลวงมูนพาราไดซ์เช่นกัน ดังนั้นเจ้าต้องให้ข้าไปกับเจ้าด้วย แล้วข้าจะเป็นคนบังคับเจ้าม้านี่ให้เอง
ส่วนเจ้าก็นั่งเฉยๆ สบายออกจะตายไป เจ้าก็ไม่ได้เสียอะไรสักนิด" คนเสียงทุ้มว่า

          "....เจ้านี่มัน ร้ายไม่เบาเลยจริงๆ ก็ได้ เดินทางหลายคนดีกว่าเดินทางเพียงคนเดียว" อาร์เทมิสยอมตกลง แต่มันจะดีจริงๆ เร้อ
เดินทางกับเจ้ากอลิล่าเนี่ย จะเชื่อคำพูดของหมอนี่ได้ไหมเนี่ย

          "ข้ารับปากเจ้าแล้ว เจ้าต้องเลิกเรียกข้าว่า เจ้าหน้าหวาน หากว่าเจ้าเรียกข้าว่าเจ้าหน้าหวานเมื่อไหร่ ข้าจะถือว่าข้อตกลงนี้เป็นโมฆะ
จงจำไว้ให้ดี" อาร์เทมิสย้ำข้อตกลงอีกครั้ง


          "ตกลง...ข้าจะไม่เรียกเจ้าว่า เจ้าหน้าหวานอีก ออกเดินทางกันเถอะ เดี๋ยวจะล่าช้าไปกว่านี้" คนเสียงทุ้มรับคำ

          "...อืม...." อาร์เทมิสเห็นด้วยกับคำพูดของคนเสียงทุ้ม

          อาร์เทมิสนั่งข้างหลังคนเสียงทุ้ม บนหลังของเมเทโอ พวกเขาเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง

          กั่บ กั่บ กั่บ กั่บ เสียงควบม้า หรือก็คือเจ้าเมเทโอ ที่กำลังวิ่งไปตามเส้นทางเดิมที่ทอดยาวออกไป

          "ข้า มีนามว่า เฮริออส เลียนเน เรียกข้าว่า เฮเรียส ก็แล้วกัน เจ้าหละชื่ออะไร...." คนเสียงทุ้มแนะนำตัวเองก่อนที่จะถามชื่ออีกฝ่าย
ในขณะที่ตนเองกำลังควบคุมเมเทโออยู่

          "นามของข้าคือ อาร์เทมิส ละ..." อาร์เทมิสนึกขึ้นได้ว่า นามสกุลของเขาก็ต้องเปลี่ยนด้วยเช่นกัน

          "ข้า อาร์เทมิส เซเรน" นามสกุลของเขา ได้นำเอาชื่อของเสด็จแม่มาเป็นนามสกุล เนื่องด้วยเหตุการณ์มันจวนตัว บวกกับหากป้าเนป
ลุงซิก หรือ เอนเดเมี่ยนได้ยิน ก็จะทราบได้ทันทีว่าเป็นเธอ...ลูน่า นั่นเอง

          "เรียกข้าสั้นๆ ว่า อาร์ดิส ก็แล้วกัน" อาร์เทมิส หรืออาร์ดิส กล่าว

          "...น่าแปลกดีนะ ชื่อของข้าแปลว่าพระอาทิตย์ ส่วนเจ้า..." เฮเรียสหยุดพูดไปเฉยๆ ทำให้อาร์ดิส หรืออาร์เทมิส เสริมต่อไป

          "ชื่อของข้าแปลว่าพระจันทร์ นั่นสิ...น่าแปลกจริงๆ เจ้าจะเจิสจ้าในยามกลางวัน ส่วนข้าจะเจิสจรัสในยามกลางคืน"

          ช่างเป็นอะไรที่ต่างกันคนละขั่วเสียจริงๆ แต่ต่างก็เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่พอๆ กัน โลกไหนๆ ก็ไม่อาจขาดทั้ง 2 สิ่งนี้ได้ เพราะทั้ง 2 สิ่งนี้
คือต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง

          2 วันผ่านไป ไวเหมือนคนเขียนโกหก

          เฮเรียส และอาร์ดิส หนุ่มทั้ง 2 ก็เข้าเขตเมืองโอไรออน

          "ทำไมเจ้าถึงเดินทางไปยังเมืองหลวง อาร์ดิส" เสียงทุ้มของ เฮเรียสซักถามผู้เดินนำหน้าตนเอง

          "....." ไม่มีคำตอบอันใดจากปากอาร์ดิส เขาเลือกที่จะเงียบ

          "นี่...เจ้า...อาร์ดิส...นี่ข้าถามเจ้าอยู่นะ" เสียงทุ้มที่เริ่มขุ่นๆ เพราะผู้ที่เค้าถามนั้นดันเมินไม่ตอบซะงั้นอ่ะ

          "....แล้วเจ้าหละต้องการไปที่นั่นทำไม" อาร์ดิสถามย้อน

          "นะ...นี่เจ้า ข้าถามเจ้าก่อนนะ เจ้าก็ต้องตอบมาก่อนสิ ถามย้อนเฉยเลยนะเจ้าเนี่ย" เฮเรียสยังไม่เลิกลา ยังหวังจะได้คำตอบอยู่

          "ข้า...จะไปเข้าเรียนที่ โรงเรียนศาสตร์แห่งเวทย์ ยูนิคอรอส เจ้าหละ" สุดท้ายอาร์ดิสก็ยอมตอบ แอบยิ้มเล็กๆ สะใจที่แกล้ง
เฮเรียสให้หัวปั่นได้หน่อยนึง

          "งั้นเหรอ จุดหมายดันเป็นสถานที่เดียวกันซะนี่" เฮเรียสพูดเหมือนไม่อยากจะให้ไปที่เดียวกัน แต่ปากกับใจหนะไม่ตรงกันร๊อก
ในใจนี่คิดแผนร้อยแปด ไว้เพื่อกลั่นแกล้ง อาร์ดิส ข้าจะแหย่เจ้าทุกวันเลยอาร์ดิส ฮ่ะฮ่า....อะไรประมาณนี้

          มีเหรอที่ อาร์ดิสของเราจะไม่รู้ว่า เจ้าเฮเรียสมันต้องคิดอะไรไม่สื่อแน่ๆ ต้องวางแผนการณ์อะไรป่วนจิตอีกแน่ เอาสิ จะมาไม้ไหน
ก็มา เดี๋ยวจะเอาคืนกลับให้สาสมเลย คอยดู....

          ทั้ง 2 ไปหยุดอยู่แถวบริเวณตลาด เพื่อทำการเลือกซื้อเสบียงอาหารสำหรับอีก 3 วัน เพื่อเดินทางไปยังเมืองหลวงมูนพาราไดซ์
ในตลาดมีข้าวของมากมาย ทั้งอาหาร เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ทุกชนิด มีให้เลือกสรรตามความต้องการ แม้แต่ร้านค้าอาวุธก็มีด้วยเช่นกัน
ยกเว้นไม่มี 7-11 นะจ๊ะ

          (หนะ...อย่าไปโฆษณามาก ชักหลายอย่างและ)

          แม้ว่าเมืองโอไรออนจะเป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่ก็เหมาะสมสำหรับเป็นเมืองต้อนรับผู้ที่เดินทางผ่านมา ผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน
แตกต่างไปจากในป่าที่แทบจะไม่พบเจอผู้คนในเส้นทางที่ผ่านมาเลย

          "นี่เจ้า...อาร์ดิส เจ้าถนัดเวทย์ศาสตร์ธาตุอะไร แขนงไหน" เฮเรียสถามอย่างอยากรู้อยากเห็นว่า ไอ้เจ้าคนหน้าสวยเนี่ย
ตัวเล็กๆ แค่นี้ มันใช้เวทย์ธาตุไหนกันนะ

          "ข้าไม่เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องบอกเจ้า" เรื่องไรจะบอกหละ เวทย์ธาตุที่เขาใช้เหมือนใครเสียที่ไหนกัน

          "....เจ้านี่ยังไงกันนะ ระหว่างทางข้าพยายามจะทำให้เจ้าต้องใช้พลังเวทย์ แต่เจ้ากลับไม่ใช้แม้แต่นิดเดียว ข้าชักสงสัย
เจ้าเสียแล้วสิ" เฮเรียสพูดอย่างรู้สึกสงสัยเต็มกำลัง

          "....เหรอ....ดี....งั้นก็จงสงสัยต่อไป" คิกคิกคิก อาร์ดิสหัวเราะในใจอย่างสะใจสุดๆ ที่แกล้งเฮเรียสได้

          มันก็น่าแปลกที่ เขาอดที่จะแกล้งเฮเรียสไม่ได้ อยากทำท่าเต๊ะ มาดเนี้ยบดีนัก มันก็ต้องแกล้งคนพรรนี้เสียให้หนำใจ
ดูสิว่ามาดหลุดแล้วจะเป็นยังไง

          "อะ...อาร์ดิส เจ้านี่มัน...."

         ฮึม...ข้าอยากจะจับเจ้ามาผูกข้อเท้า แขวนกับต้นไม้ แล้วปล่อยให้ห้อยต่องแต่งเสียจริงๆ เจ้ามันกวนประสาทข้าจริงๆ
อาร์ดิส ถ้าเป็นคนอื่นข้าคงจะทำไปนานแล้ว หือ...เออ...ทำไม แล้วทำไมเราถึงไม่ยักทำเจ้าอาร์ดิส










บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.13 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!


Google visited last this page มิถุนายน 21, 2567, 11:40:36 PM