หัวข้อ: ตอนที่ 7 ผู้ที่ได้ชื่อว่า...มหาเวทย์ (ตอนท้าย) เริ่มหัวข้อโดย: •♫♪มู๋nsะต่าe♫♪• ที่ มกราคม 12, 2554, 03:41:30 PM ตอนที่ 7 ผู้ที่ได้ชื่อว่า...มหาเวทย์ (ตอนท้าย)
"จะบ้าเหรอ...ข้ายังไม่ตายสักหน่อย....ฟู่...." อ้าว ยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ นึกว่ากลายเป็นปลาหมึกบดไปเสียแล้ว แหม้....ตายยากเสียจริงๆ ย้อนกลับไปดูตอนที่เซอเพนกำลังจะโดนตื่บด้วยอุ้งเท้าขนาดยักษ์ แล้วเราจะทราบได้ว่า เซอเพนรอดมาได้ยังไง... "ว๊ากก!!!" ฟิ้ว..ฟึบ..ตึง...... ท่านผู้อ่านเห็นแล้วใช่ไหมว่า เซอเพนรอดมาได้ยังไง อ่ะ ถ้าไม่เห็นเราจะอธิบายให้ฟัง ระหว่างที่อุ้งเท้านั่นใกล้จะลงมาทับตัวเซอเพน ก็มีสายลมพัดเข้าห่อหุ้มตัวของเซอเพน และลากเขาออกมาจากใต้ฝ่าเท้า ใหญ่ยักษ์นั่นอย่างหวุดหวิด จบคำบรรยาย กลับไปดำเนินเรื่องต่อ "หนอย ไอ้เจ้าหมาขี้เรื้อน เมื่อกี้ข้าแค่ยังไม่ได้ตั้งตัวหรอก ตอนนี้แหละข้าจะกำราบเจ้าเสียให้อยู่หมัด ให้มันรู้เสียบ้างว่า ไผเป็นไผ หึหึ" เซอเพนพูดพรางลุกปัดก้นไปด้วย แต่ปรากฎว่าโดนตัดหน้าเสียแล้ว โดยเฮเรียส ผู้เข้าต่อกรกับหมายักษ์นั่น และที่สำคัญก็คือเฮเรียสมิได้สนใจว่าใครจะ หน้าแตกยังไง "เล่นกันยังงี้เลยเหรอ" ผู้ที่ดูเหมือนจะหน้าแตกจนหมอไม่รับเย็บอย่างเซอเพน พรึมพรำเบาๆ เฮเรียสบัดนี้ ยืนเผชิญหน้ากับหมายักษ์ที่มีขนาดตัวแทบจะเท่ากับภูเขาลูกใหญ่ๆ 1ลูก แค่เท้าของมันก็ใหญ่พอๆ กับ เสาหิน 1 ต้นแล้ว บรู๊ว!!.......แฮ่...... เสียงของเจ้าหมานั่นดังก้องกังวาลไปทั่วอาณาบริเวณ แต่ไม่ได้ทำให้เฮเรียสสะทกสะท้าน เขาเพียงแค่ค่อยๆ หลับตาลง "วาโยเอ๋ย...จงสดับเสียงแห่งข้า ผู้อยู่เหนือเจ้า......บ่วงพันธนาการอสูร..." เฮเรียสร่ายเวทย์ใส่หมายักษ์นั่น สายลมค่อยๆ หมุนเป็นเกลียวคลื่น ถาโถมเข้าโอบคลุมตัวของหมายักษ์ สายลมรัดแน่นขึ้นเมื่อเป้าหมายพยายามขัดขืน ซึ่งเป็นไปตามแรงมือของเฮเรียสผู้ควบคุม เสียงร้องโหยหวน ของหมายักษ์นั่นที่โดนสายลมกีดไปตามลำตัวของมัน ในยามที่มันพยายามดิ้นให้หลุดออกจาก บ่วงพันธนาการของเฮเรียส และเป็นโอกาสเหมาะที่เซอเพนจะได้ออกโรง เขารีบเข้าไปหาสิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักๆ ซึ่งก็คือชามข้าวหมานั่นเอง และเขาก็พบมันอยู่ห่างออกไปหน่อยจากจุดๆ นั้น แต่สิ่งที่เฮเรียส และเซอเพนไม่คาดคิดคือ การที่อาร์ดิสนั้นกำลังมุ่งหน้าเดินเข้าไปอยู่หน้าเจ้าหมายักษ์นั่น ที่กำลัง ดิ้นทุรนทุรายภายใต้บ่วงพันธนาการ "อาร์ดิส! เจ้าจะทำอะไรหนะ อย่า!!....." เฮเรียสตะโกนลั่น สิ่งที่อาร์ดิสทำ มันอาจจะดูโง่มากๆ เลยก็ว่าได้ ในเมื่อเขากำลังเดินไปหาสิ่งที่เรียกว่าอันตราย และมันก็เป็นอันตรายที่ถึงแก่ชีวิตได้เสียด้วย "จะ...เจ้าจะทำอะไรหนะอาร์ดิส....เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ...." เซอเพนตะโกนบอก ทั้งๆ ที่มือก็กำลังโกยข้าวหมาใส่ถุงผ้าอยู่ แฮ่.....กรัซ...... "หยุด!!" จู่ๆ อาร์ดิสก็ตะโกนออกมา "หยุดซะที พอได้แล้ว ถ้าเจ้ายิ่งขยับเขยื้อนตัว บ่วงเนี่ยก็จะยิ่งรัด และกีดเนื้อของเจ้า เพราะฉะนั้นพอเถอะ จงอยู่นิ่งๆ แล้วฟังคำของข้า แล้วเจ้าก็จะไม่เจ็บปวด เพราะมันจะไม่บีบรัดตัวเจ้า หากผู้ที่มันรัดอยู่เฉยๆ" อาร์ดิสกล่าวกับเจ้าหมายักษ์ตัวนั้น เจ้าหมาตัวนั้นหยุดการเคลื่อนไหว เหมือนว่ามันจะลองทำตามที่อาร์ดิสบอก มันยืนนิ่งๆ และบ่วงที่รัดแน่นนั้น ก็ค่อยๆ คลายตัวลง แต่ก็ยังคงหมุนวนอยู่ล้อมรอบตัวมัน เฮเรียส กับเซอเพน ยืนจังงัง กับเหตุการณ์ตรงหน้า...มันทำได้ยังไง ปราบหมาบ้าด้วยวิธีการเจรจาอย่างสันติเนี่ยนะ แต่มันก็เป็นไปแล้ว เจ้าหมาตัวใหญ่ค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงกับพื้น มันจ้องตากับอาร์ดิส ก่อนที่จะทำการหมอบคำนับเพื่อแสดงถึงคำขอบคุณ อาร์ดิสเดินเข้าไป ตรงหว่างขาหน้าของมัน แล้วเอามือไปสัมผัสที่จมูกอันใหญ่ยักษ์ ก่อนจะลูบเบาๆ ที่จมูกยื่นๆ ของมัน เป็นการตอบรับว่า ไม่เป็นไร เซอเพนถือถุงใส่ข้าว แล้วเดินมาหาอาร์ดิส ซึ่งเก้ๆ กังๆ จะเข้าไปดีไม่เข้าไปดี ไอ้หมาบ้ามันจะอาระวาดอีกไหมเนี่ย แต่แล้วเจ้าหมากลับ เป็นฝ่ายกระเถิบตัวมาหาเซอเพนเอง พร้อมกับจ้องหน้าเซอเพน "อะ....อะไร...จะเอาเหรอ มาซี้ อย่านึกว่าข้ากลัวเจ้านะ..." เซอเพนผงะเล็กน้อยก่อนจะพูดข่ม แผล่บ แผล่บ...แต่สิ่งที่เซอเพนเจอคือ...น้ำลาย จากการถูกเจ้าหมาตัวใหญ่เลียหน้า "อะ...อาร์ดิส มะ...มันคงจะไม่กินข้าใช่ไหมเนี่ย อย่าน้า...เนื้อข้าเหมือนเนื้อปลา รสจืดๆ ไม่อร่อยหรอก แย๊ก..." เซอเพนกล่าวทั้งๆ ที่จะจมน้ำลายอยู่แล้ว "ฮ่ะ ฮ่ะ ไม่หรอก ข้าว่ามันแค่ต้องการจะบอกเจ้าว่า ขอโทษ เท่านั้นแหละ" อาร์ดิสกล่าว "งะ...งั้นเหรอ...เหอ เหอ" เซอเพนพูดพร้อมกับทำหน้าแหยงๆ "ข้าเลยกลายเป็นผู้ร้ายไปเลยสิเนี่ย" เฮเรียสกล่าว ด้วยเหตุนี้เองภารกิจก็ได้บรรลุผลสำเร็จอันบริบูรณ์ตามคำสั่งของท่านแมจิก เนื่องมาจากว่า ข้าวหมาก็ได้มาแล้ว ไม่มีเหตุอันใด ให้ต้องต่อสู้กันอีก และทั้ง 2 ก็ได้ก้าวออกจากประตูเดิม สู่สายตาเพื่อนๆ เมจขั้นต้น ทุกคนต่างมองสภาพของทั้ง 2 อย่างเพ่งพินิจทุกมุม ไม่มีใคร มีรอยแผลอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ตุบ! เซอเพนวางถุงข้าว ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการเรียนบทที่ 1 ในวันนี้ แน่นอนว่าเจ้าตัวยิ้มแป้นหลังจากวางถุงข้าวต่อหน้าท่านแมจิก "เรานำข้าวมาได้ตามที่ท่านสั่งแล้ว" เฮเรียสกล่าว "เยี่ยม แต่ว่า....พวกของเจ้าหายไปไหนหนึ่งคน อาร์เทมิสหายไปไหนเสีย" เอนเดเมี่ยนซักถาม แต่ภายในใจของเขาไม่ได้คิดว่า อาร์ดิสจะพลาดท่าเสียที "อาร์ดิสหนะเหรอ ท่านแมจิก เขาก็กำลัง..." เซอเพนจะกล่าวตอบแต่แล้ว "ข้าอยู่นี่" เสียงมาก่อนตัวเจ้าของเสียง ทันใดนั้นก็มีจมูกยักษ์ยืนออกมานอกประตู ทำเอาเมจขั้นต้นคนอื่นๆ ร้องจ๊ากกันยกใหญ่ แต่เมื่อเห็น เต็มๆ หัว ปรากฎว่าอาร์ดิสนั่งอยู่บนหัวของเจ้าของจมูกยักษ์อันนั้น ทุกคนอึ้งกับสิ่งที่เห็น เป็นภาพที่สุดยอดมาก เท่สุดๆ เวลาที่อาร์ดิสลงมาจากหัวของหมาร่างยักษ์นั่น อาร์ดิสค่อยๆ เดินมาหาท่านแมจิกเอนเดเมี่ยน เพื่อแสดงตนว่า ปลอดภัยดี และไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่แล้วกลับมีเสียงบุคคลปริศนาดังขึ้น "โฮ้...นอกจากข้าแล้ว ยังมีคนที่เจ้ายอมให้ขึ้นขี่อีกงั้นหรือ เคอร์เบรอส คนๆ นี้น่าสนใจสินะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ" มันเป็นเสียงที่ไม่คุ้นเคยเลย เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน เมื่ออาร์ดิส และทุกคนหันไปตามต้นเสียง ก็พบว่าเขาคนนั้นยืนอยู่ข้างๆ เจ้าหมาร่างยักษ์ตัวนั้น และกำลังสัมผัสมันอย่างอ่อนโยน เหมือนกับว่าทั้ง 2 รู้จักมักจี่ สนิทสนมกันอย่างมาก เพราะว่าเจ้าหมาที่ถูกเรียกว่า เคอร์เบรอส ดูจะดีอกดีใจที่ได้พบคนที่มาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง ที่จู่ๆ ก็โผล่มาพูดปาวๆ เฉยเลย "ทะ...ท่านอาจารย์" เอนเดเมี่ยนพูดราวกับตกใจอย่างมากที่คนๆ นี้โผล่มา "อาจารย์!!!......" เมจขั้นต้นทุกคนเสียงดังกันเป็นเสียงเดียว พร้อมกับเสียงกระซิบต่อๆ กันไปว่า....' อาจารย์ของท่านแมจิกเอนเดเมี่ยนเนี่ยนะ '.... ก็เพราะว่า คนที่ท่านแมจิกเอนเดเมี่ยนเรียกว่าอาจารย์เนี่ยสิ ดูยังไงยังไงก็ไม่แก่ พูดง่ายๆ คือ อย่างกับรุ่นราวคราวเดียวกับท่านแมจิก เอนเดเมี่ยน เผลอๆ ก็เท่าๆ กับพวกเมจขั้นต้นอย่างเราๆ เสียด้วยซ้ำ (http://www.picza.net/uppic/pic/2010_11_04/9ea/9ea8c6b5a5898523b845ff133b1647c3.jpg) (http://www.picza.net/show.php?id=9ea8c6b5a5898523b845ff133b1647c3) "หือ...ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ...ไม่ว่าจะกี่ปี พวกเมจขั้นต้นก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะ" ท่านอาจารย์ของแมจิกเอนเดเมี่ยนกล่าว "ก็ยังดีกว่าปีที่แล้วนะครับ เมื่อปีที่แล้วพอเห็นท่านก็พากันช็อคไปหมด เพราะท่านดันไปปะปนกับพวกเมจขั้นต้นที่เข้ามาใหม่ ข้าพอจะทราบความประสงค์ของท่าน ที่ท่านต้องการจะใกล้ชิดสนิทกับลูกศิษย์ แต่ท่านเป็นถึงมหาเวทย์เชียวนะครับ ที่สำคัญท่านยังเป็นถึง ผู้ก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้อีกด้วย หากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกับท่าน ข้าก็คงจะกลายเป็นศิษย์เนรคุณที่ไม่สามารถปกป้องท่านได้ ท่านอาจารย์" เอนเดเมี่ยนกล่าวยาวเหยียด "แรงข้าก็ยังดีอยู่ ร่างกายของข้าก็ยังไม่แก่เสียหน่อย อังเดร์ และเจ้าก็เป็นศิษย์ที่ข้ารักเยี่ยงบุตร เจ้าไม่ได้เนรคุณข้าแม้เพียงนิด เจ้าทำหน้าที่ทั้งศิษย์ และลูกได้เป็นอย่างดี กับสิ่งที่ข้าทำทั้งหมด นี่ก็เพื่อจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จากพวกเมจขั้นต้น ด้วยเหตุที่ว่าแม้ว่าข้า จะมีอายุมากกว่าพวกเขา แต่ข้าก็จำต้องเรียนรู้ต่อไป เราต่างแลกเปลี่ยนความรู้แก่กันและกัน พวกเขาทุกคนเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่จะ ผลิดอกออกผลในภายภาคหน้า และข้าจะต้องคอยเอาใจใส่ รดน้ำ พรวนดินมิได้ขาด เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้เติบโตอย่างมั่นคง และหยั่งรากลึก ไม่ไหวเอน และหลุดลอยไปตามกระแสน้ำเชี่ยวกราด" ท่านอาจารย์กล่าว "ท่านมักจะพูดถูกเสมอ ท่านอาจารย์" เอนเดเมี่ยนนอบน้อม และไม่โต้เถียงอีก "อืม...แต่เหนืออื่นใด ตอนนี้ข้าอยากรู้ชื่อของเจ้า...." ท่านอาจารย์กล่าวพรางทอดสายตาไปทางอาร์ดิส "ข้ามีนามว่า อาร์เทมิส เซเรน เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบ และสนทนากับท่านครับ ท่านมหาเวทย์ เซอุส แอนโดรเมส" อาร์ดิสกล่าวทักทายอย่างสุภาพ และชัดถ้อย ชัดคำ "หืม....ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ข้าก็เช่นกัน นับเป็นเกียรติของข้าด้วยเช่นกัน อาร์เทมิส จะเป็นไรไหมถ้าข้าจะเรียกเจ้าว่า อาร์ดิส" ท่านอาจารย์ หรือว่าท่านมหาเวทย์เซอุสกล่าว "แล้วแต่ท่านจะเห็นสมควรครับ" อาร์ดิสกล่าวตอบกลับไปเช่นนั้น "อืม....บัดนี้นับเป็นเวลาที่ดี เมื่อแสงของดวงจันทร์จะกลับมาเปล่งประกายอีกครั้งหนึ่ง หลังเมฆหมอกผ่านพ้นไป" ท่านมหาเวทย์เซอุสกล่าวแบบเปรยๆ ออกมา จู่ๆ ทุกอย่างรอบๆ ก็กลายเป็นกลางคืน ทั้งๆ ที่ยังไม่ตกเย็นเลยด้วยซ้ำ เมื่อทุกคนแหงนมองท้องฟ้า ก็ต้องตกใจเข้าไปอีก เมื่อเห็นดวงจันทร์ ที่กำลังถูกเมฆบดบังอยู่ "แต่เราจะทำเช่นไรเล่า ท่านมหาเวทย์เซอุส ในเมื่อตอนนี้ดวงจันทร์ถูกทาบทับไว้ด้วยเมฆหมอกหนาทึบเช่นนั้น" อาร์ดิสมองดวงจันทร์ดวงนั้น แล้วเอ่ยปากออกมาถามผู้เป็นมหาเวทย์ "คำตอบทุกอย่างอยู่ในแสงสว่าง..." มหาเวทย์ต่อคำที่เหลือภายในใจของตนว่า....' และแสงสว่างอยู่ในใจของเจ้า...องค์หญิง ' เมื่อจบคำพูดของมหาเวทย์เซอุส ไม่นานท้องฟ้าก็กลับมาสดใสอีกคราหนึ่ง เหมือนภาพเมื่อครู่นี้เป็นเพียงแค่นิมิตเท่านั้น ---------------------------จบตอนที่ 7--------------------------- รบกวนช่วย ติ ชม ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ---------------------------จากใจผู้เขียน--------------------------- |